CPAC ขานรับนโยบายใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ก้าวสู่ Green Construction
วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2564, - กรุงเทพฯ : CPAC ร่วมลงนาม (MOU) กับกระทรวงอุตสาหกรรมสนับสนุนนโยบายของภาครัฐขับเคลื่อนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้เกิดเป็นรูปธรรม นำร่องจากรถโม่พลังงานไฟฟ้า (EV Fleet) เข้ามาใช้ในการขนส่งคอนกรีต ช่วยลดมลพิษปลอดฝุ่น PM 2.5 โดยมีเป้าหมายใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้ารวมทุกประเภทในปี 2578 ควบคู่การพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมการก่อสร้างด้วย Green Solution
กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และ นายชนะ ภูมี Vice President - Cement and Construction Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม และบริษัทผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด ที่ว่าด้วยความร่วมมือของภาครัฐกับองค์กรธุรกิจภาคเอกชนในโครงการการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่รัฐบาลสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในภาคเอกชน กระตุ้นให้เกิดการนำยานยนต์พลังงานไฟฟ้ามาในอุตสาหกรรมมากขึ้น จึงเป็นประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในการลดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาปภายในของยานยนต์ทั่วไป โดยการลงนามครั้งนี้จัดขึ้น ณ ห้องประชุม อก 1 ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการลงนามร่วมกับบริษัทผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด หรือ CPAC ว่า “รัฐบาล โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมให้ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันบูรณาการการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและผลักดันให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้ออกเป็นข้อกำหนด ระเบียบและมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนและสนับสนุนผู้ประกอบการ รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษี และมาตรการรองรับด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมส่งเสริมและร่วมบูรณาการกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาของมลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
นายชนะ ภูมี Vice President – Cement and Construction Solution Business และกรรมการบริหาร CPAC ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี พร้อมสนับสนุนนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้าและลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามความมุ่งหวังของ CPAC ที่จะยกระดับการก่อสร้างไทย สู่ Green Construction เพื่อให้การก่อสร้างของประเทศเกิดการพัฒนา พร้อมสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเอสซีจีที่ยึดหลัก ESG (Environmental, Social and Governance) โดยคำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดูแลสังคม และมีบรรษัทภิบาล
“CPAC มีแผนที่จะเปลี่ยนยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน จากยานยนต์แบบดั้งเดิมที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง มาเป็นยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งในส่วนของรถบรรทุก อาทิเช่น รถโม่จัดส่งคอนกรีต รถขนส่งปูนซีเมนต์ ตลอดจนรถโดยสารใช้งานทั่วไปของบริษัท โดยวางแผนจะเป็นรถ EV 100% ภายในปี พ.ศ. 2578 สำหรับในส่วนของรถโม่จัดส่งคอนกรีต CPAC เริ่มทดลองนำรถโม่พลังงานไฟฟ้า (EV Mixer Truck) มาใช้ในการขนส่งคอนกรีตเป็นรายแรกของไทย ในปี พ.ศ. 2564 ซึ่งในปี พ.ศ. 2565 จะขยายผลใช้การงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และขยายผลไปทั่วประเทศ ในปี พ.ศ. 2566” นายชนะ กล่าว
ดังนั้น การลงนามที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของทั้งสองฝ่ายที่จะร่วมสนับสนุน ดำเนินการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และเป็นแบบอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการใช้เทคโนโลยีสะอาด เพื่อลดมลภาวะทางอากาศและตอบโจทย์การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน